ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง CKD

Chronic kidney disease

โรคไตไม่น่ากลัว

คุณยังมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้ชีวิตเป็นปกติ เพียงเอาใจใส่ ดูแลอาหารที่รับประทานและสุขภาพอนามัย ให้เหมาะกับระยะไตที่เป็นอยู่

โรคไตนั้นไม่ยากเกินเข้าใจ แต่ต้องการ การตระหนักรู้ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เมื่อเราทราบแล้วว่า ตนเองป่วยเป็นโรคไต ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม การดูแลเอาใจใสที่ดี การสร้างลักษณะนิสัยใหม่ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้ไตของเราแข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยินดีทำงานให้กับร่างกายของเรา  ต่อไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว


โรคไตเรื้อรัง คือ กลุ่มอาการ ที่ไตไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามช่วงอายุของผู้ป่วย ยาวนานต่อเนื่อง และมีแนวโน้วที่ไตจะเสื่อมประสิทธิภาพลงเร็วกว่าเวลาที่ควรเป็น ซึ่งจะรวดเร็วแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุอาการโรคของผู้ป่วยเอง 

โดยทั่วไป ไตของเราเสื่อมลงอยู่ตลอดเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งเป็นอย่างนั้นกับทุก ๆ คน แต่จะไม่มีผลกระทบมากนักตลอดช่วงชีวิตเรา แต่ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื่อรัง การพบ ภาวะไตหยุดการทำงานทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ซี่งเรียกว่า "ไตวาย" สามารถพบเจอได้เป็นปกติ และส่วนมากภาวะไตเสื่อมก่อนวัย จะพบได้ในคนผิวสี และผู้คนแถบเอเซียทางตอนใต้ เป็นส่วนใหญ่ 


  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่ เมื่อป่วยมีอาการไตเสี่ยม CKD มักไม่แสดงอาการใด ๆ ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ จนในที่สุดเมื่อโรคดำเนินมาถึงระยะท้ายๆ คือ ระยะที่ 4 และระยะที่ 5 ผู้ป่วยจะมีของเสียคั่งในร่างกายมากขึ้น เริ่มมีอาการบวม มีอาการเป็นตะคริว เบื่ออาหาร อ่อนแรง หายใจหอบ และอื่นๆ หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินการรักษาต่อไป

  • โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคไต เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 3 จะเริ่มสังเกตุเห็นภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นกับร่างกายบ้างแล้ว

การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวีต การควบคุมอาหารนั้นสำคัญ เพื่อ!

หน้าทีของไต 

ไตเรายังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่

5 ระยะของโรคไต แบ่งตามสามารถการกรองของไต 

ค่า eGFR (estimated Glomerular Filtration Rate) คือปริมาณของเลือดที่ไหลผ่านตัวกรองของไตในหนึ่งนาที  (มล./นาที/1.73 ตร.ม)

คำแนะนำการกินอาหารตามแบบการแพทย์ทางเลือกเพื่อชลอไตเสื่อม

*** กินแต่พอดี  ไม่มีอะไรได้ถ้ามากเกินไป ***

งานอายุกรรม

อาหารสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

ไต เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายในการขับของเสีย โดยเฉพาะที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน มีมากในเนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วต่าง ๆ และนม ซึ่งของเสียประเภทนี้ได้แก่ ยูเรีย ครีเอตินีน กรดยูริค และสารประกอบไนโตรเจนอื่น ๆ ออกทางปัสสาวะ และควบคุมปริมาณน้ำ เกลือแร่ และ กรด-ด่าง ในร่างกายให้สมดุล น้ำและเกลือแร่ส่วนที่เกิน จะถูกขับออกทางปัสสาวะ เกลือแร่ดังกล่าวได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น 

ถ้าไตข้างใดข้างหนึ่งเสีย ไตอีกข้างหนึ่งสามารถทำหน้าที่แทนได้ เมื่อไตทั้ง 2 ข้างไม่สามารถกรองของเสียหรือที่เรียกว่า ไตวาย ก็จะเกิดอาการ ซึ่งเกิดจากการคั่งของน้ำและเกลือแร่ และการเสียสมดุลของฮอร์โมนของร่างกาย